สำหรับบ้านที่มีห้องใต้หลังคา ห้องใต้หลังคาที่บ้านคุณเป็นอย่างไร แค่เป็นพื้นที่ใต้หลังคาที่ไม่ได้รับการใส่ใจ หรือเป็นแค่ที่โล่งๆ ดูเหมือนทำไม่เสร็จหรือเปล่า
หลายคนอยากแปลงโฉมห้องใต้หลังคาให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ใช้งานได้จริง แต่ยังไม่รู้จะทำอะไรดี… ทำเป็นห้องของเด็กๆ ? หรือต่อเชื่อมกับห้องด้านล่าง ทำเป็นห้องแบบดูเพล็กซ์ให้เจ้าลูกคนโต? ทำเป็นห้องครัว?
ห้องนอนใต้หลังคาอาจฟังดูเป็นทางเลือกสุดคลาสสิก แต่ก็มีอีกหลายวิธีที่เราจะเปลี่ยนพื้นที่ใต้หลังคานี้ให้เป็นอย่างได้ ทั้งห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือเปิดเพดานสูง ทำเป็นลอฟต์ ลองมาดูดีกว่าว่าผู้เชี่ยวชาญเขาจะมีทิปส์อะไรแนะนำให้เราได้บ้าง
จากทางเลือกสุดคลาสสิกไปกันที่ทางเลือกสุดแหวกแนวกันเลยดีกว่า กับห้องใต้หลังคาที่กลายเป็นห้องครัว อย่าคิดว่าทำไม่ได้นะ! แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดโครงสร้างของห้องใต้หลังคานั้นๆ ด้วย หากมีพื้นที่เพียงพอ จะยกทั้งห้องขึ้นไปอยู่บนนั้นยังได้เลย
จะตั้งห้องครัวที่ใต้หลังคาได้ อย่างแรกพื้นที่ใต้หลังคานี้ต้องไม่แคบ อย่างห้องครัวในภาพนี้ซึ่งตั้งอยู่ใต้หลังคาจั่วที่ค่อนข้างกว้าง และมีหน้าต่างหลายบาน ส่วนตู้ต่างๆ ทำเป็นตู้ตั้งพื้นในรูปแบบของไอส์แลนด์ วางในส่วนใต้หลังคาที่ค่อนข้างสูง เพราะหากจะให้ติดตู้แบบติดผนัง ห้อยมาจากหลังคาก็คงไม่ได้ ไอส์แลนด์นี้จึงรับหน้าที่เป็นทั้งที่เก็บจานชาม และอีกอันเป็นส่วนสำหรับเตรียมอาหาร วางเครื่องใช้จำพวกเตา
ส่วนโครงหลังคาที่เป็นไม้ทาสี เรียกได้ว่าค่อนข้างเข้ากันได้ดีกับสีและสไตล์ของเครื่องใช้ในครัว ทั้งยังได้กลิ่นอายแบบรัสติกนิดๆ จากรูปลักษณะของไม้ ขณะที่หน้าต่างและช่องรับแสงบนหลังคาก็ช่วยทำให้แสงสว่างส่องเข้าห้องครัวนี้ได้เต็มที่ จะทำอาหารหรืออบขนมก็ไม่ต้องห่วงเรื่องแสงและการถ่ายเทอากาศ
ห้องนอนเป็นภาพสุดคลาสสิกเวลานึกถึงห้องใต้หลังคา ด้วยบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายภายใต้ซุ้มโครงหลังคาที่ลาดเอียง เป็นเสน่ห์ในแบบบ้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นที่หลบภัยส่วนตัว
เพื่อทำให้ห้องนี้เป็นโอเอซิสแห่งการพักผ่อนโดยแท้จริง ท่ามกลางพื้นที่ที่มีอยู่จำกัดใต้หลังคาลาดเอียง สิ่งที่ควรต้องมีในจุดนี้คือหน้าต่างบานกว้างที่จะเปิดให้อากาศถ่ายเทเข้าออกภายในห้องได้เพียงพอ ทั้งในหน้าร้อน ใต้หลังคาจะค่อนข้างร้อนกว่าส่วนอื่นที่อยู่ต่ำกว่า ยิ่งต้องอาศัยลมที่พัดเข้าออกช่วยระบายความร้อน และควรต้องมีม่านสำหรับบังแดด ไว้ลดความร้อนไว้ด้วย
บนพื้นที่ใต้หลังคาลาดเอียงที่บรรจุทุกห้องเอาไว้ เกิดเป็นอพาร์ตเมนต์เล็กๆ น่ารักเช่นที่เห็นรวมอยู่นี้
แต่ทั้งนี้การจัดสรรพื้นที่ใต้หลังคาให้เป็นแบบนี้ได้ ต้องขึ้นอยู่กับรูปแบบของหลังคาด้วย อย่างห้องนี้ที่มีพื้นที่กว้างขวาง ทั้งคานด้านบนยังเอื้ออำนวย ทำให้สามารถต่อเป็นห้องนอนที่ชั้นบนได้อีกต่อหนึ่ง สำหรับใครที่อยากได้พื้นที่ส่วนห้องนอนที่เป็นส่วนตัวกว่านี้ ก็อาจใช้วัสดุที่ขุ่น ทึบกว่านี้ทำที่กั้นส่วนที่นอน แทนกระจกใสเช่นในภาพ
ขณะที่การทำทางขึ้นสู่ชั้นบนแบบโล่งๆ ก็ช่วยทำให้ห้องใต้หลังคานี้ได้บรรยากาศของห้องสไตล์ที่มีดาดฟ้าในตัว ส่วนห้องครัวที่จัดแบบเปิดโล่ง ไม่มีการกั้นผนังหรือประตู แต่จัดให้ผสมกลมกลืนไปกับห้องนั่งเล่น ก็ช่วยให้ห้องดูโล่ง กว้างขึ้นได้เช่นกัน
(ดูเพิ่มเติม 26 ไอเดียแต่งห้องครัวขนาดเล็ก สำหรับบ้านที่มีพื้นที่น้อย ทางออกสำหรับใครที่มองหาวิธีจัดห้องครัวในพื้นที่จำกัด)
หากหลังคาที่ลาดเอียงยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ห้องนอนใต้หลังคาของคุณเป็นสถานที่พิเศษ ชวนผ่อนคลายในองศาเอียงๆ ที่ห่อหุ้มห้องไว้ หน้าต่างที่ยื่นออกกับคาน (เช่นที่เห็นในรูป) ก็เป็นอีกตัวช่วยที่จะทำให้ห้องนี้ดูอบอุ่น น่าซุกตัวขึ้นได้
อย่างในกรณีของบ้านแบบฮาล์ฟทิมเบอร์หลังนี้ ไม่ว่าจะเป็นเสาและคาน ไม้ที่ใช้ในส่วนอื่นๆ วัสดุและสีของผนังล้วนดูเข้ากันกับคาแรกเตอร์ของบ้าน เช่นเดียวกับที่ห้องใต้หลังคานี้ วัสดุและการตกแต่งเหล่านั้นก็ถูกนำมาใช้ตกแต่ง จนทำให้เกิดบรรยากาศสบายๆ ชวนผ่อนคลาย เมื่อประกอบเข้ากับการติดตั้งฉนวนและระบบระบายอากาศ ก็ยิ่งทำให้ห้องนี้อยู่สบายยิ่งขึ้น
อพาร์ตเมนต์ที่เห็นอยู่ในภาพนี้ แท้ที่จริงคือห้องใต้หลังคาของอาคารหลังหนึ่งในไฟร์บูร์ก ที่ถูกทิ้งร้างไว้เนิ่นนาน
ด้วยความว่าเป็นอาคารเก่าแก่ การจะปรับเปลี่ยนแปลงโฉมจึงต้องอาศัยความยินยอมจากทางการ และต้องทำตามกฎหรือข้อตกลงต่างๆ ซึ่งทำให้ไม่สามารถทำตามไอเดียบางอย่างได้ตามอำเภอใจ แต่สำหรับกรณีของอาคารหลังนี้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องความเลอะเทอะเปรอะเปื้อนบางประการที่อาจทำให้เกิดมลภาวะตามมา จึงได้รับการเปลี่ยนกระเบื้องและปรับปรุงห้องเสียใหม่อย่างที่เห็น เกิดเป็นห้องแบบโอเพ่นสเปซที่รวมเอาโครงสร้างเก่าและการตกแต่งภายในสไตล์โมเดิร์นไว้ด้วยกัน อย่างคานของห้องก็เป็นคานที่ใช้วัสดุชุดใหม่แต่ติดตั้งในแบบและจุดดั้งเดิม หรือพื้นห้องที่เป็นแบบออริจินัล
คงต้องขอบคุณการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ที่ทำให้อาคารสองชั้นพร้อมห้องใต้หลังคา และวิวสวยๆ ที่มองไปเห็นโบสถ์กลางเมือง ได้เกิดใหม่อย่างสวยงาม แม้ต้องผ่านข้อจำกัดของอาคารเก่ามากมายหลายข้อ
ตัวอย่างนี้แตกต่างจากตัวอย่างในข้อก่อนหน้า คือโครงสร้างของอาคารในโคโลญจน์หลังนี้ ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการรื้อโครงสร้างหลังคาเดิมออกแล้วเสริมโครงสร้างที่เป็นเหล็กกล้าเข้าไปแทน
ภายในห้องใต้หลังคาที่กว้างขวาง ด้านใต้เป็นที่ตั้งหน้าต่างบานกว้าง ขณะที่ด้านที่จัดเป็นครัวและห้องกินข้าวนั้นติดกับผนังอิฐทาทับด้วยสีขาว มีพื้นผิวที่โดดเด่น โครงสร้างที่เป็นหลังคาแหลมสูงนี้ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง และยังทำให้ลมหมุนเวียนเข้ามาได้ดี นอกจากนี้ยังมีแสงที่ลอดเข้ามาทางรอยต่อของเพดานด้านบน ที่ทำให้เกิดแสงเงาเฉพาะสำหรับห้องนี้ด้วย
จะเหมาะไหมถ้าเราจัดห้องน้ำไว้ในพื้นที่ใต้หลังคาที่ปรับปรุงใหม่
ห้องน้ำก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจ ที่น่าลองใส่ไว้ในห้องใต้หลังคา อย่างห้องนอนใต้หลังคาที่มีห้องน้ำในตัวในตัวอย่างนี้ หลายคนน่าจะยังไม่เคยเห็น ส่วนที่เป็นห้องน้ำตั้งไว้ใต้หน้าต่าง มีประตูปิดเปิด ทำให้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว ขณะที่ห้องนอนอยู่ชั้นบนขึ้นไปอีกนิด สามารถเชื่อมต่อกันด้วยบันไดเช่นที่เห็นในภาพ เป็นห้องนอนที่คล้ายกับในภาพที่สอง คืออยู่ใต้หลังคาแบบตรงๆ เต็มๆ
ห้องน้ำแบบมีอ่างอาบน้ำจริงจัง มีฝักบัวให้ยืนอาบแบบคลาสสิก ก็ล้วนเหมาะกับจุดนี้ทั้งสิ้นน ห้องน้ำแบบที่มีอ่างอาบน้ำเต็มรูปแบบจะทำให้เราได้ใช้เวลาแสนสุขในนาทีส่วนตัว ได้รู้สึกสงบ ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ นอกเหนือไปกว่านั้นยังได้เพลิดเพลินกับวิวท้องฟ้าผ่านหลังคาที่เปิดโล่ง ลองจินตนาการดูว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีแค่ไหน…
ในนาทีที่จุ่มตัวลงในอ่างน้ำอุ่น พักหัวตรงที่ขอบอ่าง แล้วเงยหน้ามองฟ้า หรือมองฝนท่ามกลางห้องน้ำที่มีแสงเทียนสลัว
สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ก็คงไม่พ้นการติดหน้าต่างใสบานกว้างตรงห้องน้ำใต้หลังคานี้แล้วล่ะ
หลายคนมีฝันอยากมีห้องสมุด ห้องอ่านหนังสือ เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้องสมุดในห้องนั่งเล่น พื้นที่ที่เหลืออยู่ตรงห้องใต้หลังคานี้เติมเต็มความฝันนั้นได้
จัดสรรพื้นที่ วางตู้หนังสือเสร็จแล้ว อย่าลืมจัดสรรพื้นที่นั่งเล่นอย่างในภาพ เพื่อที่เราจะได้มีความสุขอยู่กับการอ้อยอิ่งตรงพื้นที่จัดใหม่นี้ได้นานๆ แถมยังทำให้ห้องดูเปิดกว้าง ไม่อึดอัดอีกด้วย
ทางเลือกสำหรับใครที่อยากเลี่ยงทำงานในบริเวณห้องนั่งเล่นหรือห้องกินข้าว ชนิดไม่ถึงขั้นต้องไล่ขยับสู่ห้องอื่นๆ ที่สงบกว่า แต่สามารถใช้งานพื้นที่ใต้หลังคา จัดเป็นห้องอ่านหนังสือ/ห้องทำงานได้ หรือถ้าไม่อยากตัดขาดกับห้องอื่นๆ จนเกินไป ก็อาจทำเป็นห้องให้หลังคาแบบเปิด เป็นห้องเล็กๆ ลอยอยู่กับโครงสร้างใต้หลังคา (เช่นในภาพนี้) ได้บรรยากาศแบบสตูดิโอไปอีกห้อง
